วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

TRCตัดเชือกงาน7พันล.กันยานี้ โบรกชี้สัญญาณดีจ่อรับกำไรอื้อ

TRCตัดเชือกงาน7พันล.กันยานี้ โบรกชี้สัญญาณดีจ่อรับกำไรอื้อ

TRC ลุ้นผลตัดสินชนะประมูลงานมูลค่ากว่า 7 พันล้านบาทเดือนหน้า เผยขณะนี้อยู่ในช่วงต่อรองราคา เปิดเกมส์เดินหน้าประมูลงานโอมาน 6 พันล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้คว้างานมาได้แล้ว หลังมีจุดแข็งเป็นพันธมิตรที่มีความรู้ความชำนาญของที่นั่น พร้อมทั้งถือหุ้นของบริษัท 40% ฟากนักวิเคราะห์ประเมิน TRC ฉายแววดีส่งสัญญาณคว้างานยักษ์ใหม่เร็วๆ นี้ ขณะที่บริษัทย่อยในโอมานเริ่มทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ ส่องราคา 2.83 บาท
นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC เปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้ยื่นซองเสนอราคาแล้วมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 7 พันล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นงาน 2 ส่วน คือ 1. งานที่ยื่นซองเสนอราคาไปแล้วเป็นงานโครงการของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่มี มูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งในช่วงนี้อยู่ระหว่างการต่อรองราคา และบริษัทคาดว่าจะสามารถจบได้ในเดือนกันยายนนี้ โดยบริษัทคาดว่ามีโอกาสที่จะได้งานประมาณ 33% เนื่องจากขณะนี้บริษัทมีคู่แข่งอยู่ทั้งหมด 3 ราย

สำหรับส่วนที่ 2 เป็นการประมูลงานของบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมูลค่าโครงการประมาณ 4 พันล้านบาท ลักษณะของงานที่บริษัทเข้าไปประมูลนั้นเป็นการจับมือกับพันธมิตรของบริษัท โดยในวันที่ 30 สิงหาคม 2553 จะยื่นซองเสนอด้านคุณสมบัติ ต่อจากนั้นจะเปิดซองราคา ซึ่งในเดือนกันยายนนี้จะทราบผลการประกวดราคาดังกล่าวเช่นกัน
** ลุ้นชนะงานประมูล 7 พันล้าน
“เราคาดว่าจะสามารถรู้ผลชนะการประมูง งานทั้ง 2 ส่วนที่มีมูลค่ารวมกันประมาณ 7 พันล้านบาท ในเดือนหน้า ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงของการต่อรองราคา ซึ่งตอนนี้มีคู่แข่งอยู่ทั้งหมด 3 ราย โอกาสที่เราจะชนะน่าจะอยู่ที่ประมาณ 33%” นายสมัย กล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการเข้าไปประมูลงานในประเทศโอมานมีเพิ่มขึ้น ซึ่งในขณะนี้บริษัทได้ยื่นเอกสารต่างๆ เข้าไปร่วมประมูลงานโครงการดังกล่าวแล้ว โดยบริษัทได้มองหางานที่มีขนาดประมาณ 3,000 - 6,000 ล้านบาท ขณะที่ในประเทศโอมานบริษัทมีพันธมิตรอยู่ที่นั่นและเป็นผู้มีความรู้ความ ชำนาญในพื้นที่นั้น ซึ่งพันธมิตรดังกล่าวเข้าถือหุ้นของบริษัท 40% และภายในปีนี้บริษัทมีโอกาสที่จะรู้ผลการชนะประมูลงานโครงการดังกล่าวบาง ส่วน ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทมีการเข้าไปรับงานในประเทศโอมานแล้ว
ขณะที่ ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 1,000 ล้านบาท และจะสามรถรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 600-700 ล้านบาท ที่เหลือเป็นต้นปี 2554
**โบรกเชียร์”ซื้อ” 2.83 บาท**
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC ว่า ตัวเลขไตรมาส 2/2553 ดีขึ้นซึ่ง TRC รายงานกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ที่ 67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 371.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากขาดทุนสุทธิ 15 ล้านบาทในไตรมาส 1/5353 เนื่องจากการรับรู้รายได้จากงานวางท่อส่งก๊าซซึ่งเป็นงานถนัดของ TRC และโดยปกติ งานวางท่อจะให้กำไรที่ดี และในรายงานเมื่อ 13 พฤษภาคม 2553 ได้แจ้งแล้วว่ารายได้จากงานใหม่จะรับรู้ในไตรมาส 2/53 ดังนั้น จึงไม่แปลกใจที่ตัวเลขไตรมาสนี้จะดีขึ้นมาก
นอกจากนี้รายได้อื่นๆ เติบโตมากในไตรมาส2/53 เนื่องจากบริษัทได้กลับรายการค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุนในโครงการราช เพลินจำนวน 21.23 ล้านบาท หลังจากบริษัทสามารถขายขายหุ้นในโครงการ Ratcha Ploen ซึ่งทำให้มีกำไรจากการขายหุ้นจำนวน 16.67 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในไตรมาส 3/53 นอกจากนี้บริษัทยังกลับรายการสำรองเผื่อผลขาดทุนจากโครงการก่อสร้างศูนย์ไบ โอดีเซลของ BCP จำนวน 10.38 ล้านบาท

ส่วนแนวโน้มของบริษัท ย่อย สหการวิศวกร(SKW) ที่มีปัญหาอยู่นั้น ปรับตัวดีขึ้น โดย TRC แก้ปัญหาด้วยการส่งต่องานหลายงานให้ SKW ซึ่งจะทำให้ TRC สามารถควบคุมการดำเนินการของ SKW ได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ปัญหาของ SKW เกิดจากการที่บริษัทหางานใหม่ด้วยตัวเองโดยไม่ได้ควบคุมดูแลมากเท่าที่ควร ดังนั้น
การที่ TRC เข้าไปควบคุมการดำเนินงานของ SKW ให้มากขึ้นก็น่าจะทำ ให้ SKW สามารถทำกำไรได้เร็วๆ นี้

นอก จากนี้ผู้บริหารได้ส่งสัญญาณว่า TRC น่าจะได้งานใหญ่เร็วๆ นี้ โดยงานใหม่จะทำให้แนวโน้มกำไรดีขึ้นในครึ่งปีหลังไปตลอดทั้งปี 2555 นอกจากนี้ เงินลงทุนในTRC & Al Ghalbi LLC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในโอมานที่ตั้งในปี 2552 (TRC ถือหุ้น 60%) เริ่มจะทำกำไรได้ อีกทั้งผู้บริหารมั่นใจต่อแนวโน้มผลประกอบการของ TRCอย่างมากมาก เราจึงคาดว่า TRC น่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้
สำหรับสิ่งที่ เปลี่ยนแปลงทำให้มีการปรับเพิ่มประมาณการปี 2553-2554 ขึ้นมากเพื่อสะท้อนกำไรไตรมาส 2/53 การควบคุมการดำเนินงานของ SKW และกำไรของ TRC & AlGhalbi อย่างไรก็ตามทางฝ่ายยังไม่ได้รวมงานใหญที่จะเกิดขึ้นในประมาณการของเราซึ่ง จะเป็นปัจจัยบวกหากบริษัทชนะประมูล

ทั้งนี้ทางฝ่ายได้ปรับคำแนะนำ จาก “ขาย” เป็น “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายไปเป็นปี 2554 ด้วยราคาเป้าหมายที่ 2.83 บาท(ราคาเป้าหมายปี 2553 อยู่ที่ 1.46 บาท) โดยคิดจาก PBV เฉลี่ยในปี 2549-2550 (ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำไรกำลังเติบโต) ที่ 1.23 เท่า
 ราคาปิดของ TRC วานนี้(18 ส.ค.53) อยู่ที่ 2.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.36 บาท หรือ 15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 269.57 ล้านบาท


Thunhoon
Last update : 8/19/2010 1:45:00 PM

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น