| สันนิบาตเกิดเพื่อปิตตะสมุฏฐาน มี ๔ อย่าง คือ |
| ๑. เกิดเพื่อดีซึม ลักษณะอาการ เมื่อบังเกิด กระทำให้ซึมไป หาสติสมปฤดี มิได้ ให้อิ่มไป ไม่อยากกินอาหาร สะบัดร้อนสะท้านหนาว |
| ๒. เกิดเพื่อดีพุล่ง ลักษณะอาการเมื่อบังเกิดกระทำให้คลั่งเป็นคราวๆ บางทีให้กล้า บางทีให้ขลาด ทำให้แน่นอกเป็นกำลัง ให้คอแห้ง ลำคอตีบ กินข้าวกินน้ำไม่ได้ ให้อาเจียน สวิงสวาย ให้พลุ่งขึ้นพลุ่งลงในอก ให้ยกมือ ยกเท้าขวักไขว่ไปมา |
| ๓. เกิดเพื่อดีล้น ลักษณะอาการ สันนิบาตเกิดเพื่อดีล้น เมื่่อบังเกิด มักให้โลดโผนไปทั้งตัว เห็นหน้าคนและสิ่ง ใดไม่ได้ ได้ยินได้ฟังสำเนียง อันใดก็ไม่ได้ สมมุติว่า ต้องลมเพลมพัดก็ว่า มีปีศาจเข้าสิงก็ว่า ไม่อยากอาหาร คอ แห้ง กระหายน้ำ น้ำลายเหนียว มือเย็นเท้ืาเย็น แต่ตัวร้อน
|
| ๔. เกิดเพื่อดีรั่ว ลักษณะอาการ เมื่อบังเกิดกระทำให้ลงดุจกินยารุ มูลเหลือง ดุจน้ำขมิ้นสุด ให้เคลิบเคลิ้มไป หาสติมิได้ ให้หิวโหย บริโภคอาหารไม่อยู่ท้อง สวิงสวาย แน่นหน้าอกเป็นกำลัง และ ท้องลั่นอยู่เป็นนิจมิได้ขาด |
| ลักษณะอภิญญาณธาตุ ๔ มีดังนี้ |
| ๑. ลักษณะชาติธาตุปถวี คือชาติธาตุปถวี กำเริบ หย่อน พิการ มีอาการกระทำให้เสมหะเน่า ให้เจ็บท้อง ท้องขึ้น ให้เสียดแทงและแปรเป็นอัมพฤกษ์ เป็นโรคกระษัย เป็นป้าง ให้เนื้อช้ำใน เล็บมือเล็บเท้าเขียว ให้โลหิต ตกทวารหนัก ทวารเบา กินอาหารไม่อยู่ท้อง โทษทั้งนี้ เกิดแต่กองปถวีธาตุ กำเริบ หย่อน พิการ |
| ๒. ลักษณะชาตุธาตุอาโป คืออาโปธาตุ กำเริบ หย่อน พิการ มีอาการให้ลงท้อง เจ็บหน้าอก แปรเป็นกล่อน ขัดอุจจาระปัสสาวะ นอนไม่หลับ เป็นพรรดึก กลิ้งขึ้นกลิ้งลง ขัดสีข้าง ถ้าหญิงขัดซ้าย เยียวยายากนัก ถ้าแก้มิฟัง ๗ วันตาย มีอาากรแปรไปให้ขัดหัวเข่าและน่อง เท้าเย็น ให้บังเกิดเสมหะกล้า ผอมแห้ง เจ็บอก ร้อนหน้าตาดัง ไข้จับ |
| ๓. ลักษณะชาติธาตุเตโช คือเตโชธาตุ กำเริบ หย่อน พิการนั้น มีอาการกระทำ ให้ร้อน ปลายมือ ปลายเท้า มีพิษเจ็บปวดดุจปลาดุกยัก แปรไปให้หลังมือบวม ให้ผื่นขึ้นทั่วสรรพางค์กาย เป็นดังผด และหัด ให้เจ็บท้อง ให้ตกปุพโพโลหิต ให้มือเท้าตาย |
| ๔. ลักษณะชาติธาตุวาโย คือวาโยธาตุ กำเริบ หย่อน พิการนั้น มีอาการกระทำ ให้หนักตา เป็นหิ่งห้อย กระ จายออก ให้เมื่อยมือ เมื่อยเท้า ให้เป็นตะคริว และลมจับโปง ให้ขัดหัวเข่า และเมื่อยสันหลัง ให้สองเกลียวคอนั้น แข็ง สมมุติว่า เป็นฝีเส้น มีอาเจียนลมเปล่า เจ็บอก ขัดในท้อง หนักตา |
| ลักษณะอสุรินธัญญาณธาตุ ๔ มีดังนี้ |
| ๑. สมธาตุ
๒. วิสมธาตุ
๓. กติกธาตุ( ติกขธาตุ)
๔. มันทธาตุ |
| ๑. สมธาตุ ลักษณะอาการ สมธาตุยิ่งไปด้วยกองสรรพธาตุ มีอาการกระทำให้จับเป็นเวลา บางทีให้ตัวร้อน เท้าเย็น บางทีให้สวิงสวาย ให้เจ็บในอก บริโภคอาหารไม่รู้รส บางทีให้มึน ให้มันทั้งโทษ ทั้งนี้ กล่าวคือ เสมหะสมุฏฐาน ปิตตะสมุฏฐาน และวาตะสมุฏฐาน ประชุมพร้อมกันในกอง วิสติปถวี ให้เป็นเหตุ |
| ๒. วิสมธาตุ ลักษณะอาการ วิสมธาตุยิ่งไปด้วยกองวาโยมีกำลัง คือ ทำให้ท้องลั่นอยู่เป็นนิจ บางวันให้ลง บางวันให้อยากอาหาร บางวันให้คับท้อง แน่นอกคับใจ เพลิงธาตุมิได้เสมอ วาโยเดินไม่สะดวก โทษทั้งนี้เกิดแต่ กองฉกาลวาโยเป็นเหตุ |
| ๓. กติกธาตุ ( ติกขธาตุ) ลักษณะอาการ กติกธาตุ ( ติกขธาตุ) ยิ่งไปด้วยสรรพิษทั้งปวง มีพิษดี พิษเสหมะ พิษลม เป็นอาทิ พิษอันเศษเป็นที่สุด คือ เพลิงธาตุนั้นแรง เผาอาหารฉับพลันยิ่งนัก กระทำให้จับเซื่อมมัว ทั้ง กลางวันกลางคืน มิได้เว้นเวลา ให้ปวดศีรษะ ให้ผิวเนื้อแดง ตาแดง ให้ขัดอุจจาระ ปัสสาวะ ให้เป็นพรรดึก โทษทั้งนี้ เกิดแต่กองจตุกาลเตโชธาตุ เป็นเหตุ |
| ๔. มันทธาตุ ลักษณะอาากร มันทธาตุนั้น ยิ่งไปด้วยเสมหะมีกำลัง คือเพลิงธาตุนั้นหย่อนเผาอาหารมิได้ย่อย กระทำให้ลงไปวันละ ๒-๓ เวลา ให้สวิงสวาย ให้ถอยแรงยิ่งนัก กระทำให้ท้องขึ้นมิรู้วาย ให้อุจจาระ เป็นเมือก มันเป็นเปลว หยาบและละเอียดระคนกัน ให้ปวดมวนเป็นกำลัง โทษทั้งนี้เกิดในกองทวาทสอาโป ให้เป็นเหตุ
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น