การจำแนกรสสมุนไพรของผักพื้นบ้านสี่ภาค
ผักพื้นบ้านสี่ภาค นอกจากจะมีคุณค่าทางโภชนาสูงแล้ว ส่วนใหญ่ยังมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร เนื่องจากมีรสยาประกอบอยู่ด้วย และการแพทย์แผนไทยให้ความสำคัญ กับรสอาหารผักพื้นบ้าน ๔ ภาค สามารถจำแนกรสสมุนไพรได้ดังนี้
รสฝาด มีสรรพคุณ แก้ในการสมานแผล แก้ท้องร่วง บิด บำรุงธาตุ เช่น ยอดจิก ยอดมะม่วงหิมพานต์ ผลมะตูมอ่อน มะเดื่ออุทุมพร ยอดฝรั่ง ผักกระโดน ยอดเสม็ด เป็นต้น
รสหวาน มีสรรพคุณ ซึมซาบไปตามเนื้อ ทำไห้ชุ่มชื่น บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย ถ้าใช้มากเกินไปแสลงกับโรค เบาหวาน เสมหะเฟื่อง แสลงบาดแผล ทำให้แผลชื้น เช่น เห็ด บุก ผักหวานป่า หน่อไม้
ผลฟักข้าว ดอกลีลาว เต่ารั้ง ผักขี้หูด เป็นต้น
รสขม มีสรรพคุณ บำรุงโลหิตและดี เช่น ฝักเพกา มะระขี้นก ยอดหวาย ดอกขี้เหล็ก ใบยอ สะเดา ผักโขม มะเขือ ยอดมะรุม เป็นต้น
รสเผ็ดร้อน มีสรรพคุณ แก้ลมจุกเสียด แน่นเฟ้อ ขับผายลม บำรุงธาตุ เช่น ดอกกระทือ ดอกกระเจียวแดง ผักหูเสือ ดีปลี ใบแมงลัก ผักคราดหัวแหวน ใบกระเพรา ใบชะพลู ขิง ข่า ขมิ้น เป็นต้น
รสหอมเย็น มีสรรพคุณ บำรุงหัวใจ ทำให้ใจคอสดชื่น ครรภ์รักษา แก้เสมหะโลหิต แก้อ่อนเพลีย เช่น เตยหอม บัว ผักบุ้งไทย สันตะวา โสน ดอกขจร เป็นต้น
รสเปรี้ยว มีสรรพคุณ แก้ทางเสมหะ ฟอกโลหิต ระบาย เช่น ยอดมะขามอ่อน มะนาว มะเฟือง ยอดชะมวง มะดัน เป็นต้น
รสมัน มีสรรพคุณ แก้เส้นเอ็นพิการ บำรุงไขข้อ บำรุงเส้นเอ็น เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงเยื่อกระดูก เช่น สะตอ เนียง บัวบก ขนุนอ่อน ถั่วพู ฟักทอง กระถิน มัน ยอดผักติ้ว ชะอม เป็นต้น
คนไทยมีวัฒนธรรมในการปรุงแต่งอาหารที่หลากหลาย และแตกต่างกันไป อันเนื่องมาจากความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินที่มีวัตถุดิบ อาทิ ผักพื้นบ้านต่างๆ เช่น ดอกกระเจียว ผักหวาน ต้นบอน ต้นบุก พืชตระกูลมัน เช่น มันอ้อน มันมือเสือ หรือพืชป่าต่างๆ อีกมากมาย คนไทยจึงนำวัตถุดิบเหล่านั้นมาปรุงแต่งเป็นอาหารได้มากมายหลายวิธี เช่น
แกงส้ม ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านภาคกลาง และภาคใต้ มีคุณสมบัติคล้ายยาหม้อ เนื่องจากประกอบไปด้วยสมุนไพรหลายชนิดมาปรุงรวมกัน เช่น พริก หอม กระเทียม ขมิ้น เป็นต้น
เมี่ยงคำ ซึ่งจัดเป็นอาหารว่าง ก็ประกอบไปด้วยสมุนไพรปรับธาตุ เช่น
ใบชะพลู ซึ่งเป็นยาปรับธาตุดิน
ขิงและพริก เป็นยาปรับธาตุลม
มะนาว เป็นยาปรับธาตุน้ำ
เป็นต้น
ส้มตำ หรือต้มยำ ก็มีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน คือ เป็นอาหารที่มีการนำพืชผักสมุนไพร มาผสมปรุงแต่งเป็นอาหารหลายประเภทเป็นที่ชื่นชอบทั้งของคนไทยและชาวต่างชาติ เพราะมีรสชาติอร่อย และมีเอกลักษณ์ของตนเอง
อาจสรุปได้ว่า การรับประทานอาหารตามธาตุทั้ง ๔ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ นั้น เปรียบได้กับการรับประทานอาหาร ๕ หมู่ คือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ไวตามิน และเกลือแร่ ในการแพทย์แผนปัจจุบันนั่นเอง
ที่มา: นิทรรศการการแพทย์แผนไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น