วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ยำงบฯกองทัพไม่โปร่งใส!แฉซื้อราคาแพง
วันเกิดบรรหารชื่นมื่น เพื่อไทยย้ายกลับรังเก่า
ยำเละงบฯกองทัพไม่โปร่งใส หมกเม็ด ซื้อของแพง แต่ไม่มีประสิทธิภาพ พุ่งเป้าทุบ 3 โครงการหลัก ทั้งเรือเหาะ รถเกราะล้อยาง และเครื่องบินกริพเพน เสนอปรับลด 30% ขณะที่กรมประชาสัมพันธ์ก็ถูกอับยับไม่แพ้กัน ทำงานไม่ได้เรื่องดีแต่สร้างความแตกแยกให้มากขึ้น ด้าน ส.ส.เรียงหน้าหนุนแก้ รธน.เขตเดียวเบอร์เดียวตามความเห็นคณะกรรมการพิจารณาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฝากประชาธิปัตย์เสียงอ่อยแย้มจะรับไปหารือในพรรคอีกครั้ง “เติ้ง” ชื่นมื่นวันเกิดปีที่ 78 ลั่นพร้อมเป็นกองหนุนพา ส.ส.กลับสภาในการเลือกตั้งครั้งหน้าทั้งหมด ด้านเพื่อไทยย้ายกลับรังเก่า “จิ๋ว” แย้มปลายปีการเมืองเปลี่ยนแปลง
* “ชัย” รู้ถกงบฯใครป่วน
เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึง การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ว่า ใน วันแรกมีปัญหาเกิดขึ้นเล็กน้อย เรารู้แล้วว่าในสภาใครชอบสร้างปัญหา ความจริงการพิจารณางบฯวาระ 2-3 จะมาพูดว่าใครด่าใครไม่ได้ ถือเป็นการใช้สิทธิมากเกินไป น่าเกลียด เป็นเรื่องมารยาท ไม่ต้องพูดอะไรมาก ใครพูดมากเดี๋ยวหลอดลมตัน อย่างไรก็ตามการประชุมดังกล่าวคาดว่าจะลงมติได้ในวันที่ 20 ส.ค. เวลา 12.00 น.
นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ภาพรวมสภายังไม่สามารถรักษาเวลาให้เป็นไปตามกรอบที่ควรจะ เป็นได้ การอภิปรายค่อนข้างยืดเยื้อไม่ตรงประเด็น แม้ประธานจะพยายามควบคุมแต่สมาชิกยังไม่ให้ความร่วมมือ การอภิปรายยังไม่เป็นไปอย่างที่เราอยากเห็น กรอบการอภิปรายกว้างเกินไป
* “เทือก”ป้องสุดตัวงบฯกห.
นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 กล่าวว่า การพิจารณางบฯปี 2554 จะเสร็จทันตามกำหนดเวลา วันแรก ส.ส. อาจพูดกันมากแต่เชื่อว่าวันที่เหลือจะพูดน้อยลง ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความการจัดทำเอกสาร ร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 54 เนื่องจากไม่มีรายละเอียดนั้น ที่ผ่านมาฝ่ายค้านก็เคยยื่นไปแล้ว แต่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับพิจารณา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึง ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ของกระทรวงกลาโหมมากผิดปกติว่า ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องผิดปกติ เรื่องเบี้ยค่าใช้จ่ายในการดูแลความสงบเรียบร้อยเป็นเรื่องปกติ เมื่อถามถึงการจัดซื้อรถหุ้มเกราะลำเลียงพลจากประเทศยูเครน ที่จ่ายเงินไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับการส่งมอบ และมีการเตรียมซื้อในลอตใหม่อีก นายสุเทพกล่าว ว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องการซื้อลอตใหม่ เท่าที่ติดตามทุกอย่างเป็นไปตามกฎเกณฑ์ปกติ งบของกระทรวงกลาโหมปีนี้ยังน้อยกว่าในบางสมัยด้วยซ้ำ
* วอลเปเปอร์ไม่กลัวถูกถอด
เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ฟันธงว่าแม้สภาจะผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯพรรคประชาธิปัตย์ก็คงไม่ผ่านโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันตอบแทนให้กับพรรคภูมิใจไทยอย่างแน่นอนว่า การคาดการณ์ของร.ต.อ.เฉลิม เชื่อได้เลยว่าผิด ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหา
ด้านนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม เตรียมยื่นถอดถอนกรณีปล่อยข่าวซื้อคืนดาวเทียมไทยคมจากกองทุนเทมาเส็กเพื่อ หวังปั่นหุ้นว่า เราพูดชัดเจนแล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการสื่อสารที่มาจากต่างประเทศก่อน เราไม่ได้มีการไปพูดจาในลักษณะการปั่นหุ้น ตนเคยอธิบายไปแล้วว่าลักษณะการปั่นหุ้นมันไม่ใช่แบบนี้ อย่างไรก็ตามตนไม่รู้สึกหนักใจเพราะไม่ได้ซื้อหุ้นไทยคม และก็มั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบไปถึงรัฐบาล
* 140 พท.ยื่นถอดถอนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำโดยนายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส. สัดส่วน และฝ่ายกฎหมายพรรคได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้สมาชิกวุฒิสภามีมติถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่า บุคคลทั้ง 3 มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการปั่นหุ้นดาวเทียมไทยคม ตามที่ออกมาให้ข่าวว่ารัฐบาลไทยจะซื้อหุ้นดาวเทียมไทยคมคืนจากกองทุนเทมา เส็กของประเทศสิงคโปร์ โดยมี ส.ส. ร่วมลงชื่อกว่า 140 คน หลังรับหนังสือนายประสพสุขกล่าวว่า จะใช้เวลาตรวจสอบ รายชื่อไม่เกิน 15 วัน
นายประเกียรติกล่าวว่า การซื้อคืนหุ้นไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของรัฐบาล แต่นายอภิสิทธิ์ นายกรณ์ และนายศิริโชค กลับออกมาให้ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของราคาหุ้นดาวเทียมไทยคมในตลาด หลักทรัพย์ เรื่องนี้จึงมีคนได้ประโยชน์และเสียหายจากการประโคมข่าวซื้อหุ้นคืน และนายศิริโชคไม่มีตำแหน่งในฝ่ายบริหาร แต่ก้าวก่ายแทรกแซงอำนาจบริหาร การกระทำของบุคคลทั้ง 3 ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เป็นเหตุให้ต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง
* จวกยับงบฯกรมประชาฯ
จากนั้นในเวลา 09.00 น. นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ในวาระที่ 2 และ 3 วันที่สอง โดยเริ่มต้นพิจารณามาตราที่ 5 จากทั้งหมด 35 มาตรา ซึ่งเป็นส่วนของงบฯสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยต่างอภิปรายโจมตีเกี่ยวกับการจัดงบฯจำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท ที่ตั้งไว้สูงเกินความจำเป็น พร้อมทั้งขอปรับลดทั้งในส่วนของกรมประชาสัมพันธ์ เพราะมีการทุจริตเชิงนโยบายอย่างชัดเจน โดยการเอาพวกของตัวเองเข้าไปจัดรายการที่มีแต่เรื่องโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะไม่สามารถทำให้เกิดการปรองดองได้
ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ในช่วงที่เกิดวิกฤติการณ์ในบ้านเมืองรัฐบาลไม่มีช่องทางอื่นที่จะสื่อสารกับ ประชาชน จึงจำเป็นต้องใช้ช่องทางของเอ็นบีทีในการสื่อสารข้อมูลต่าง ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เอ็นบีทีมีรายการที่จะเปิดพื้นที่ให้ฝ่ายต่าง ๆ ได้แสดงออกทางความคิดอย่างกว้างขวาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมใช้เวลาอภิปรายมาตรา 5 นาน 3 ชั่วโมง ในที่สุดที่ประชุมมีมติให้ความเห็นชอบงบฯสำนักนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนนเสียง 242 ต่อ 144 งดออกเสียง 4 ไม่ลงคะแนนเสียง 20 และเข้าสู่การอภิปรายมาตรา 6 ว่าด้วยงบประมาณของกระทรวงกลาโหม
* ยำเละงบฯกลาโหม
จากนั้นได้อภิปรายในมาตรา 6 ในส่วนของกระทรวงกลาโหม จำนวน 1.7 แสนล้านบาท โดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาคร ทรรพ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย อภิปราย ขอปรับลดงบฯลงร้อยละ 10 หรือ ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท ยกเว้นในส่วนกรมราชองครักษ์ เรากำลังมุ่งเน้นการทำสงครามการค้า ไม่ใช่การรบ จึงไม่เหมาะสมที่จะสวนกระแสโลกด้วยการสะสมอาวุธ เป็นการลงทุนด้านความมั่นคงที่ไม่คุ้มค่า ถ้าเทียบแล้ว กระทรวงกลาโหมใช้งบฯมากกว่าสาธารณสุข ถึง 2 เท่า งบฯของกลาโหมหลายโครงการใช้จ่ายอย่างไม่ระมัดระวัง การจัดซื้อยุทโธป กรณ์ไร้ประสิทธิภาพ เช่น เรือเหาะตรวจการณ์ ที่ยังไม่สามารถปฏิบัติงานด้านยุทธการได้ หรือรถเกราะล้อยางที่ยังไม่ได้รถและยังจะขอซื้อลอต 2 อีก
ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ส.ส.ขอน แก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนขอปรับลดงบฯกลาโหมลงร้อยละ 10 ปีนี้กลาโหมขอจัดงบฯถึงกว่า 1.7 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ที่การจัดซื้ออาวุธ ตนขอดูรายการจัดซื้ออาวุธฝ่ายกลาโหมก็บอกว่ากลัวข้อมูลจะหลุดออกไป 3 เหล่าทัพ กองทัพอากาศจัดหาอาวุธได้ดีที่สุด ตนเห็นด้วยในการจัดซื้อเครื่องบินกริพ เพน แต่มันจัดซื้อแพงกว่าเขา ส่วนของ ทบ.ที่ซื้อรถหุ้มเกราะล้อยางจากยูเครน เมื่อเดินทางไปตรวจสอบที่ยูเครนปรากฏว่าไม่สามารถใช้งานในยุทธการที่ต้องการ ได้
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น