ในหลวง-ราชินี” ทรงรับ 5 ศพ ฮ.ตกไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

รองปลัดทส.เผยเหยื่อฮ.ดับยกลำ 5 ศพ คาดชนภูเขา เตรียมเครื่องบินซี 130 นำร่างมาถึงดอนเมืองบ่าย 3 โมง เผย 4 ศพ เสียชีวิตในฮ. อีก 1 กระเด็นออกนอกเครื่อง "ในหลวง-ราชินี"ทรงรับ5ศพฮ.ตก ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ "สุวิทย์" บอก รอดหวุดหวิด ทุกครั้งต้องไปด้วย กรุงเทพฯ – วันนี้ (18 ส.ค. 53) นสพ.มติชน รายงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประสานกองทัพอากาศนำเครื่องบินซี 130 เดินทางมารับศพคณะผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและนักบิน ทั้ง 5 ราย ที่ท่าอากาศยานน่าน เพื่อเดินทางไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง ในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.โดยทั้งหมดได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ มีกำหนดสวดพระอภิธรรมศพ 5 วัน ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน กรุงเทพฯ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงประสบอุบัติเหตุชนเขาที่ อ.นาหมื่นว่า ทุกครั้งจะต้องร่วมเดินทางไปทำงานด้วย “แต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ถึงไม่ไปด้วย ท่านปลัดไม่ได้ชวนเหมือนทุกครั้ง” ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นศพของผู้ใด อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างการลำเลียงออกจากพื้นที่เกิดเหตุไปยังโรงพยาบาลน่าน เพื่อชันสูตรศพ ก่อนที่จะนำขึ้นเครื่องบินซี 130 ของกองทัพบกกับกรุงเทพมหานคร เมื่อ เวลา 08.50 น. นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ทางช่องทีเอ็นเอ็น ถึงการค้นหาเฮลิคอปเตอร์คณะปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีข่าวว่าพบซากเครื่องบินและผู้เสียชีวิต 1 ราย ว่า ขณะนี้กำลังจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปจังหวัดน่าน เพื่อติดตามเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ได้รายงานได้ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีทราบแล้ว โดยนายกฯ ได้สั่งให้หาทางช่วยเหลือผู้สูญหายอีก 4 คนที่เหลืออย่างเร่งด่วน เมื่อช่วงสายวันที่ 18 นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เดินทางถึงที่ว่าการอำเภอนาหมื่น จ.น่าน แล้ว เพื่อรับฟังรายงานการค้นหาเฮลิคอปเตอร์ของคณะปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมตกในบ้านน้ำแขว่ง โดยมีผู้เสียชีวิต 5 ราย ที่จุดเกิดเหตุเป็นภูเขาสูง พบผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย โดยศพนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม นายโกวิทย์ ปัญญาตรง ผู้ตรวจราชการกรมทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เสียชีวิตอยู่ในห้องโดยสาร ขณะที่พ.ต.เจนวิทย์ อรุณสวัสดิ์ นักบินเสียชีวิตอยู่ในห้องนักบิน ส.อ.วิฑูรย์ เทียนเงิน ช่างเครื่องเสียชีวิตอยู่ใต้ซากเฮลิคอปเตอร์ ส่วนนายสหัส บุญญาวิวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง กระเด็นออกมาจากซากเครื่องบิน จากนี้ เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าลำเลียงศพออกมาจากเฮลิคอปเตอร์ และนำร่างผู้เสียชีวิตมายังเฮลิคอปเตอร์ที่เตรียมไว้ เพื่อนำไปส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลจังหวัดน่าน ก่อนจะนำขึ้นเครื่องซี 130 เข้ามายัง บน.6 ดอนเมือง นางนิศากร โฆษิตรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า พบเฮลิคอปเตอร์ของคณะปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว ในบ้านน้ำแขว่ง ต.เมืองลี้ อ.นาหมื่น จ.น่าน พร้อมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย โดยคาดว่าชนภูเขา เนื่องจากวิสัยทัศน์ไม่ดี ทส.กำลังส่งเครื่องบินซี130 ไปรับศพทั้งหมดออกมา คาดว่าจะเดินทางถึง บน.6 ดอนเมือง ในเวลา 15.00 น. สำหรับผู้ที่เดินทางไปกับเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวประกอบด้วย นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม นายโกวิทย์ ปัญญาตรง ผู้ตรวจราชการกรมทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม นายสหัส บุญญาวิวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง พร้อมพ.ต.เจนวิทย์ อรุณสวัสดิ์ นักบิน และส.อ.วิฑูรย์ เทียนเงิน ช่างเครื่อง เมื่อเวลา 09.15 น. พล.ต.ต.อดุลย์ อจลบุญ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.น่าน ให้สัมภาษณ์รายการสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย กล่าวยืนยันว่า พบเฮลิคอปเตอร์ของคณะปลัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว โดยตกในร่องน้ำ ในบ้านน้ำแขว่ง ต.เมืองลี้ อ.นาหมื่น จ.น่าน ห่างจากอ.นาหมื่น 30 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ถึงจุดที่เกิดเหตุแล้ว และคาดว่าจะไม่มีผู้รอดชีวิต ขณะนี้กำลังสร้างสนามฮ. เพื่อจอดเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงเจ้าหน้าที่เข้าไปลำเลียงผู้เสียชีวิตออกมา สำหรับ นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก่อนได้รับแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2550 ให้ข้ามห้วยมาเป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเกษียณอายุราชการในปี 2553 เกิด วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2493 จบวิทยาศาสตรบัณฑิต (สุขาภิบาล) รางวัลเหรียญทอง คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี พ.ศ.2515 ปริญญาโท ปริญญาเอกวิทยาศาสตร์ ด้านการจัดการคุณภาพน้ำ มหาวิทยาลัย Tulane สหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ.2523 วปอ.รุ่น 41 จบปริญญาตรีแล้วเริ่มงานในบริษัทเอกชนเป็นเวลา 3 ปี จากนั้นได้ทุน ก.พ.ต่อปริญญาโท-เอก จบแล้วกลับมารับราชการที่กองมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม มีความก้าวหน้าในงานตามลำดับ โดยเป็นผู้อำนวยการกอง เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ต่อมามีการแยกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯออกจากกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม เขาได้รับเลือกให้เป็นรองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จนขึ้นเป็นปลัดกระทรวงวิทย์ฯ ในปี 2548 ได้รับการผลักดันจากนายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯให้กลับไปช่วยงาน เนื่องจากเห็นว่าเป็นลูกหม้อเก่า ยังเหลืออายุราชการอีก 3 ปี ในขณะที่นายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แคนดิเดต เหลืออายุราชการเพียงปีเดียว แต่เหตุผลสำคัญน่าจะมาจากนายศักดิ์สิทธิ์เคยเป็นลูกน้องคนสนิท ทำงานใกล้ชิดนายเกษมสมัยเป็นปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯระหว่างปี 2535-2541 มาก่อน (ข้อมูลจากคอลัมน์คนตามข่าว โดยดุษฎี สนเทศ หนังสือพิมพ์มติชน)ดร.ศักดิ์สิทธิ์ เคยได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ปถมาภรณ์มงกุฎไทย ปถมาภรณ์ช้างเผือก มหาวชิรมงกุฎ และมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก ในปี พ.ศ. 2537, 2540, 2543 และ 2548 ตามลำดับ นายโกวิทย์ ปัญญาตรง ผู้ตรวจราชการกรมทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2493 ที่ ต.พรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี จบการศึกษาชั้นต้นที่โรงเรียนประจำจังหวัดสิงห์บุรี แล้วเข้ามาศึกษาต่อระดับมัธยมที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และโรงเรียนอำนวยศิลป์พระนคร เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ปริญญาตรีวนศาสตร์ จากนั้นได้ศึกษาในระดับปริญญาโทสาขาเดียวกันจาก Michigan State University สหรัฐอเมริกา เข้ารับราชการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2516 ในตำแหน่งข้าราชการพลเรือนวิสามัญชั่วคราวทดลองปฏิบัติราชการ นักวิชาการป่าไม้ตรี กองวิจัยผลิตผลป่าไม้ กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี 2517 เป็นนักวิชาการป่าไม้ตรี กองวิจัยผลิตผลป่าไม้ ปี 2518 เป็นนักวิชาการป่าไม้โท งานปลูกสร้างสวนป่า สำนักงานป่าไม้เขตอุบลราชธานี ปี 2519 เป็นนักวิชาการป่าไม้ 5 ฝ่ายทดลองจัดการต้นน้ำ กองอนุรักษ์ต้นน้ำ ปี 2531 เป็นเจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 7 ฝ่ายจัดการต้นน้ำที่ 1 ทำหน้าที่หัวหน้าโครงการพัฒนาป่าไม้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สวนป่าสิริกิติ์ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ปี 2535 เป็นเจ้าหน้าที่บริหารป่าไม้ 7 ฝ่ายจัดการต้นน้ำที่ 1 ทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์จัดการต้นน้ำที่ 7 และหัวหน้าโครงการพัฒนาป่าไม้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สวนป่าสิริกิติ์ ส่วนอนุรักษ์ต้นน้ำ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ปี 2540 เป็นนักวิชาการป่าไม้ 8 ว. ส่วนวนวัฒนวิจัย สำนักวิชาการป่าไม้ ช่วยปฏิบัติราชการส่วนอนุรักษ์ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทำหน้าที่หัวหน้าโครงการพัฒนาป่าไม้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สวนป่าสิริกิติ์ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และหัวหน้าศูนย์จัดการต้นน้ำที่ 7 ส่วนอนุรักษ์ต้นน้ำ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ ปี 2544 เป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 8 ผู้อำนวยการส่วนโครงการพระราชดำริและความมั่นคง สำนักแผนงานและสารนิเทศ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ปี 2546 เป็นผู้อำนวยการสนองงานพระราชดำริ ปี 2548 เป็นผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ปี 2550 ตลอดระยะเวลาแห่งการปฏิบัติราชการ ผู้ตรวจราชการกรมทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมท่านนี้มีโอกาสได้ทำงานใกล้ชิดและ ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ป่าทั่วทุกภาคของประเทศด้วย พ.ต.เจนวิทย์ อรุณสวัสดิ์ นักบินเคยปฏิบัติภารกิจร่วมค้นหาพระ 2 รูปที่เข้าไปเดินธุดงค์ในพื้นที่ป่าเขาใหญ่ แล้วเกิดพลัดหลงเข้าในป่าลึกบริเวณเขาแหลม ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประมาณ 13 กิโลเมตร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่มา มติชน